ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ได้มีการประดิษฐ์อุปกรณ์ดับเพลิงชนิดหนึ่งขึ้นในยุโรปคือลูกแก้วดับเพลิง ซึ่งมีขั้นตอนทำงานคือการตรวจจับหาความร้อน เมื่อเกิดความร้อนขึ้นจะทำให้ลูกแก้วแตกและปล่อยสารคาร์บอนเตตระคลอไรด์(Carbon tetrachloride) ออกมาทำให้ประกายไฟดับลง ลูกแก้วดับเพลิงจึงมักติดตั้งไว้ใกล้มือหรือติดไว้ที่เพดานห้อง ในอดีตการรถไฟแห่งประเทศไทยเคยซื้ออุปกรณ์ชนิดนี้มาติดตั้งไว้ที่ทำการในปี พ.ศ. 2475 โดยติดไว้ที่เพดานสำนักงาน อย่างไรก็ตามข้อเสียของลูกแก้วดับเพลิงมีขอบเขตการทำงานที่แคบ ดังนั้นจึงต้องติดตั้งหลายจุดทำให้มีต้นทุนสูง ในเวลาต่อมาเมื่อเกิดมีเครื่องดับเพลิงชนิดอื่นเช่นถังดับเพลิงบรรจุสารคาร์บอนไดออกไซด์ โฟม หรือน้ำ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการใช้มากกว่า ลูกแก้วดับเพลิงชนิดนี้จึงหมดความนิยมลง
หน้าตาของ “ลูกแก้วดับเพลิง” อุปกรณ์ดับเพลิงในสมัยก่อน (ภาพจาก wikipedia.org)