สถานีรถไฟนครลำปาง ตั้งอยู่บนถนนรถไฟ ตำบลสบตุ๋ย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ห้ามพลาดหากต้องการทำความรู้จักนครลำปาง เริ่มก่อสร้างใน พ.ศ. 2458 และเปิดทำการเดินรถตั้งแต่ พ.ศ. 2459 สมัยนั้นสถานีรถไฟนครลำปางยังเป็นสถานีปลายทางของขบวนรถไฟสายเหนือ ก่อนจะขยายการก่อสร้างต่อไปถึงนครพิงค์หรือเมืองเชียงใหม่ใน พ.ศ. 2464 พื้นที่แห่งนี้จึงเคยทำหน้าที่เป็นชุมทางขนส่งมวลชนที่ทันสมัยที่สุด และเป็นตัวแปรสำคัญในการเปลี่ยนเศรษฐกิจของเมือง ด้วยการเป็นจุดขนถ่ายกระจายสินค้าและส่งเสริมการเดินทางของผู้คนจากกรุงเทพฯ ก่อนจะเดินทางต่อไปสู่พื้นที่อื่นๆ ในภาคเหนือ
อาคารสถานีรถไฟนครลำปาง
วงเวียนน้ำพุทางด้านหน้าสถานีรถไฟนครลำปาง
อาจารย์กิติศักดิ์ เฮงษฎีกุล วิศวกรกรมชลประทาน คนย่านศรีชุม-น้ำล้อมในตัวเมืองลำปาง และเป็นนักอนุรักษ์ด้านสถาปัตยกรรมของนครลำปางคนสำคัญ ได้นำเราสำรวจพื้นที่บริเวณสถานีรถไฟ พร้อมบอกเล่าเรื่องราวที่ปรากฏในเอกสารและถ่ายทอดเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากความทรงจำในฐานะคนใน โดยอาจารย์กิติศักดิ์ชี้ชวนให้สังเกตดูตามจุดต่างๆ ภายในสถานีที่น่าสนใจ ซึ่งคนต่างถิ่นอาจมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย
จุดที่ 1
ชื่อ “นครลำปาง”
ตัวอักษร “นครลำปาง” ที่ปรากฏเหนือช่องโค้งในอาคารสถานี ถูกขยายความถึงความสำคัญในการใช้คำว่า “นครลำปาง"” ไม่ใช่ “จังหวัดลำปาง” เช่นที่เรียกอยู่ในปัจจุบัน โดยคำว่า “นคร” ที่ใช้ในสมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์นั้น หมายถึงเมืองหลักที่มีเมืองขึ้นหรือเมืองบริวาร เช่น นครน่านที่มีเมืองบริวารอยู่เลยไปทางด่านห้วยโก๋นออกไป นครลำปางก็มีเมืองพะเยาและเมืองลองเป็นเมืองบริวาร ข้อมูลจากหนังสือ น้ำวัง รถไฟ ไฮเวย์ ประวัติศาสตร์ลำปางสมัยใหม่ โดย อาจารย์ภิญญพันธุ์ พจนะลาวัณย์ หน้า 136 อธิบายถึงการเปลี่ยนแปลงในการใช้คำไว้ว่า
ป้ายชื่อสถานีรถไฟ “นครลำปาง” ที่ติดอยู่ภายในอาคารสถานี
“ระบบมาตรฐานเกี่ยวกับชื่อเกิดขึ้นในปี 2459 โดยให้ปรับเปลี่ยนการเรียกขานชื่อเมือง และเริ่มใช้คำว่า ‘จังหวัด’ ขึ้นอย่างเป็นมาตรฐาน หลักฐานการจัดระบบการเรียกชื่ออำเภอและจังหวัดที่ปรากฏในราชกิจจานุเบกษา ก็น่าจะแสดงให้เห็นถึงการตัดคำว่า ‘นคร’ ออกจาก ‘ลำปาง’ และเรียก ‘จังหวัดลำปาง’ ในเอกสารของราชการมาตั้งแต่ปี 2460 เป็นอย่างช้า ที่น่าสังเกตก็คือการจัดตั้งมณฑลมหาราษฎร์ในปี 2459 ที่ระบุว่า ทำการแยกเมืองนครลำปาง เมืองนครน่าน เมืองนครแพร่ ออกมาจากมณฑลพายัพ เพื่อตั้งมณฑลมหาราษฎร์ กำหนดเริ่มเดือนเมษายน 2459 แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของชื่อเมืองนครลำปางกับเมืองอื่นๆ เนื่องจากคำว่า ‘นคร’ ใน ‘นครลำปาง’ นั้นเป็นชื่อเฉพาะ ไม่ใช่คำขยายคำว่าเมือง หรือการที่รัชกาลที่ 6 ทรงพระราชทานนามสกุล ณ ลำปาง ก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงการเน้นถึงเฉพาะชื่อ ลำปาง ในปี 2457 จึงอาจเป็นไปได้ว่าการตัดคำว่า นคร จากจังหวัดนครลำปางมาเป็น ‘จังหวัดลำปาง’ เกิดจากความคิดเช่นนี้เอง”
ป้ายสถานี “นครลำปาง”
จุดที่ 2
ป้ายแสดงความสูงเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง
ภายในสถานีมีป้ายติดตั้งแสดงข้อความว่า “แนวนี้สูงเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง 269.00 ม. Above M S L. M.” อาจารย์กิติศักดิ์อธิบายว่าอักษรภาษาอังกฤษ Above M S L. M. มาจาก Above mean sea level metres หมายถึงความสูงเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง การคำนวณหาระดับอ้างอิงโดยใช้ค่าเฉลี่ยระดับน้ำทะเลปานกลางที่เกาะหลัก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตรงนั้นค่าเท่ากับ 00 เช่น กรณีกรุงเทพฯ ความสูงจากระดับน้ำทะเลแค่ 1 เมตร เป็นพื้นที่ซึ่งเกิดน้ำท่วมได้ง่าย วิธีวัดใช้กล้องส่องมาตามทางรถไฟ เดินหน้าถอยหลังหาค่าไปเรื่อยๆ ณ จุดนี้วัดได้ว่าสูงจากค่าเฉลี่ยที่เกาะหลัก 269 เมตร นายช่างฝรั่งชาวเยอรมันเป็นคนมาวัดระดับความสูง เพื่อสร้างทางรถไฟสายนี้
อาจารย์กิติศักดิ์ เฮงษฎีกุล กำลังอธิบายถึงป้ายแสดงความสูงเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง
จุดที่ 3
รอยกระสุนที่ขื่อคาน
บริเวณขื่อคานของสถานีรถไฟพบว่ามีรอยกระสุน อันเป็นผลพวงจากสงครามโลกครั้งที่ 2 “สถานีรถไฟถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ฝ่ายสัมพันธมิตรต้องการทำลาย เนื่องจากเป็นเส้นทางลำเลียงเสบียงและยุทโธปกรณ์ของญี่ปุ่น” ปัจจุบันจึงยังเห็นรอยกระสุนเป็นวัตถุพยานอยู่
บริเวณขื่อคานของสถานีรถไฟที่พบรอยกระสุนสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
รอยกระสุนสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
จุดที่ 4
อาคารสถานี
อาคารสถานีแห่งนี้ได้รับคัดเลือกจากคณะกรรมการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมแห่งสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ให้เป็นอาคารอนุรักษ์ดีเด่น ประเภทอาคารสถาบันและสาธารณะ ประจำปี 2536 อาคารหลังนี้ออกแบบโดยนายเอินสท์ อัลท์มันน์ (Ernst Altmann) วิศวกรชาวเยอรมัน ตามรูปแบบสถาปัตยกรรมตะวันตก แบบบาวาเรียน คอทเทจ (Bavarian Cottage) ที่มีการใช้ไม้ทแยงมุมยึดไม่ให้อาคารโยก ซึ่งเป็นเทคนิคการก่อสร้างแบบเยอรมัน ผสมผสานกับการประดับตกแต่งด้วยหัวเสาและซุ้มโค้ง รวมถึงลวดลายพื้นเมือง สันนิษฐานว่าได้รับแรงบันดาลใจจากประตูโขงที่วัดพระธาตุลำปางหลวง ทำให้อาคารมีความสวยงามและกลมกลืน และที่โดดเด่นมากคือลวดลายหม้อปูรณฆฏะผสมลายเครือเถา นอกจากนี้ยังมีตัวเลข พ.ศ. 2458 และ ค.ศ. 1915 ซึ่งคือปีที่สร้างอาคารอยู่บนหน้าจั่วด้านข้างทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และทิศตะวันตกเฉียงใต้ของตัวอาคารสถานีด้วย
อาคารสถานีรถไฟนครลำปาง สถาปัตยกรรมแบบบาวาเรียน คอทเทจ
ตัวเลขระบุปี พ.ศ. ที่สร้างที่หน้าจั่วด้านข้างของตัวอาคารสถานี
ไม้ฉลุลวดลายหม้อปูรณฆฏะผสมลายเครือเถาประดับอยู่ที่ตัวอาคารสถานี
นอกจากนี้ยังมีจุดอื่นๆ ที่อาจารย์กิติศักดิ์ชี้ชวนให้ชมเพื่อย้อนระลึกถึงความสำคัญของสถานีรถไฟนครลำปางครั้งวันวาน เช่น ตราชั่งจากเนเธอร์แลนด์ที่ยังทรงประสิทธิภาพใช้งานมายาวนานกว่าศตวรรษ พื้นที่คลังสินค้าสำหรับเป็นโกดังเก็บและกระจายสินค้า รวมถึงวงเวียนหน้าสถานีรถไฟ อาคารห้างร้าน และโรงแรมในย่านถนนรถไฟ สิ่งเหล่านี้บ่งบอกถึงความสำคัญของสถานีรถไฟนครลำปางและความเปลี่ยนแปลงของหย่อมย่านบ้านเมืองที่ยังรอการมาเยือนจากทุกท่าน
บานหน้าต่างภายในสถานีประดับด้วยลวดลายไม้ฉลุ
ตราชั่งจากเนเธอร์แลนด์สำหรับใช้ชั่งน้ำหนักสินค้า
ขอขอบคุณ
อาจารย์กิติศักดิ์ เฮงษฎีกุล
แหล่งอ้างอิง
นัฐวรรณ ไทยดี. สถานีรถไฟบนเส้นทางรถไฟสายเหนือ. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต ภาควิชาศิลปสถาปัตยกรรม บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร. 2554.
ภิญญพันธุ์ พจนะลาวัณย์. น้ำวัง รถไฟ ไฮเวย์ ประวัติศาสตร์ลำปางสมัยใหม่. ลำปาง : คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง, 2561.